วันจันทร์ที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2561

ครีมกันแดดทาหน้า ราคาเบาๆ แต่ปกป้องผิวจากแสงแดดขั้นเทพ 
         ครีมกันแดดเป็นไอเทมที่สาวๆทุกคนต้องมี เพราะแดดเมืองไทยโหดร้ายที่สุด วันนี้เราจะมารีวิวครีมกันแดดทาหน้าที่สาวๆ ควรมีไว้ครอบครอง กับครีมกันแดดทาหน้า กันน้ำ กันเหงื่อได้ดีและมีเนื้อครีมบางเบา ไม่เหนียวเหนอะหนะ ตอบโจทย์สาวไทยสุดๆ ไม่มีไว้ไม่ได้แล้ว ที่สำคัญราคาเบาๆ ไม่เกิน 350 บาทขาดตัว ส่วนตัวไหนจะเริ่ดที่สุดก็มารอชมกันเลย….
สาวๆรู้ไหม? ครีมกันแดดมีหลายหลายรูปแบบ ทั้งแบบเนื้อครีม เจล โลชั่น เซรั่ม หรือ สเปรย์ ซึ่งการเลือกใช้ก็ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละคนนั่นเอง หากเป็นสาวผิวมันควรเลือกแบบเนื้อเจลหรือโลชั่น สาวผิวแห้งควรเลือกชนิดครีมเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวนั่นเอง
ครีมกันแดด สามารถแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม
1.ครีมกันแดดสำหรับใช้เป็นทุกวัน สำหรับสาวๆที่แต่งหน้าควรเลือกใช้กันแดดที่เป็นเมคอัพเบสในตัว ส่วนผิวกายควรเลือกกันแดดสูตรเซรั่ม เพราะทาได้ตลอดทั้งวัน ไม่เหนียวเหนอะหนะ
2.ครีมกันแดดสำหรับทำกิจกรรมกลางแดด ต้องมั่นใจว่าปกป้องผิวจากแดดแรงๆได้จริง ก่อนที่จะออกไปทำกิจกรรมกลางแดดต้องทาครีมก่อนออกแดดประมาณ 20 นาที แต่ถ้าขี้เกียจรอแนะนำให้ใช้แบบสเปรย์ พร้อมออกแดดได้ทันที โดยที่ไม่เหียวเหนอะหนะเลย
รีวิว 5 ครีมกันแดดคุณภาพแรงแต่ราคาเบาๆ
รีวิวครีมกันแดดหน้า 5 ชิ้น ที่เราคัดมาแล้วว่าราคาไม่แรง ส่วนตัวไหนจะใช้ดีที่สุด มาชมผู้เข้าประกวดกันเลย…
1.SpectraBAN Sunscreen Cream SPF50+,PA+++ ปริมาณ 20 มล.ราคา 200 บาท (ตัวนี้ราคาถูกสุดแต่ปริมาณน้อยสุด)
2.Garnier UV complete whiten & protect daily sunscreen SPF50+/PA++++ ปริมาณ 30 มล. ราคา 249 บาท
3.NIVEA SUN Protect & White Instant White & Smooth SPF50+ PA+++ ปริมาณ 30 มล.ราคา 279 บาท
4. L’oreal UV Instant White SPF50+/PA++++ ปริมาณ 30 มล.ราคา 339 บาท
5.Biore UV Bright Face Milk SPF 50+/PA+++ ปริมาณ 30 มล.ราคา 250 บาท

1.SpectraBAN Sunscreen Cream SPF50+,PA+++
ครีมกันแดดหน้าที่ช่วยปกป้องผิวจากรังสี UVA และ UVB และยังมีวิตามินอีด้วยด้วย ตัวนี้เป็นครีมกันแดดทาหน้าที่ช่วยกันน้ำและกันเหงื่อได้ จึงมีเนื้อครีมที่เข้มข้นมาก
เนื้อครีม : เนื้อครีมสีขาวเข้มข้นสุดๆ
ความมัน : ค่อนข้างมัน
ความเหนอะหนะ : เหนอะหนะมากๆเลย
กลิ่น : กลิ่นหอมอ่อนๆ
คะแนน : 8
ครีมกันแดดหน้า Garnier UV complete whiten & protect daily sunscreen
2.Garnier UV complete whiten & protect daily sunscreen SPF50+/PA++++
ครีมกันแดดหน้าที่ปกป้องผิวจากรังสี UVB, UVA และ UVA1 และช่วยกันแดดได้ยาวนานถึง 12 ชั่วโมง
เนื้อครีม : ครีมสีขาว
ความมัน : ค่อนข้างทิ้งความมันเยิ้มเอาไว้
ความเหนอะหนะ : ค่อนข้างเหนอะหนะไปหน่อย
กลิ่น : กลิ่นหอมนิดๆ
คะแนน : 7
รีวิวครีมกันแดดทาหน้า กันน้ำ NIVEA SUN Protect & White Instant White & Smooth
3.NIVEA SUN Protect & White Instant White & Smooth SPF50+ PA+++
โลชั่นกันแดดที่ช่วยปกป้องผิวจากรังสี UVB/UVA2 และ UVA1 ซึ่งทำร้ายผิวอย่างล้ำลึกที่สุด และยังมีวิตามินอีที่ช่วยคงความชุ่มชื้นให้กับผิว ถือว่าเป็นครีมกันแดดหน้าระดับเทพอีกตัวที่ต้องมีไว้ครอบครองอย่างยิ่ง
เนื้อครีม : เนื้อครีมบางเบา สีชมพูอ่อนๆ พอทาแล้วดูกลมกลืนไปกับสิผิว ทำให้หน้าไม่ขาววอก
ความมัน : แทบไม่ทิ้งความมันไว้เลย
ความเหนอะหนะ : ไม่เหนียวเหนอะหนะ ซึมซาบลงสู่ผิวได้ดีเยี่ยม เบาบางสบายผิวมากๆเลย
กลิ่น : กลิ่นหอมอ่อนๆ
คะแนน : 9
ครีมกันแดดทาหน้า L’oreal UV Instant White
4. L’oreal UV Instant White SPF50+/PA++++
ครีมกันแดดหน้าที่ช่วยปกป้องผิวได้อย่างยาวนานถึง 12 ชั่วโมง ช่วยกรองแสงรังสี Long UVA ได้อีกด้วย
เนื้อครีม : เนื้อครีมสีชมพูอ่อนๆ
ความมัน : หลังจากทาแล้วทิ้งความมันไว้พอสมควรเลย
ความเหนอะหนะ : เกลี่ยง่ายแห้งไวและเป็นคราบนิดหน่อย
กลิ่น : มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ไม่ฉุนเท่าไร
คะแนน : 7
รีวิวครีมกันแดดทาหน้า Biore UV Bright Face Milk
5.Biore UV Bright Face Milk SPF 50+/PA+++
โลชั่นครีมน้ำนมกันแดด ช่วยปกป้องผิวจากรังสี UVA และ UVB ใช้แล้วรู้สึกบางเบามาก นับว่าเป็นสุดยอดครีมกันแดดหน้าในดวงใจของใครหลายคน
เนื้อครีม : โลชั่นครีมน้ำนมบางเบา สีขาวแต่พอทาไปแล้วจะเปลี่ยนเป็นสีอมชมพูนิดๆ
ความมัน : ทาปุ๊บทิ้งความมันไว้นิดๆ แล้วก็ค่อยๆแห้งไป แถมไม่ทิ้งคราบขาวหลงเหลือไว้เลย
ความเหนอะหนะ : แห้งสนิทไม่เหนียวเหนอะหนะ ซึมซาบสู่ผิวอย่างรวดเร็วเลยทีเดียว
กลิ่น : แต่ตัวนี้กลิ่นค่อนข้างแรงเกินไป
คะแนน : 9.5 (หักคะแนนกลิ่นแรงไปนิด)
ครีมกันแดดขั้นเทพ
หลังจากเวลาผ่านไป มาเปรียบเทียบชัดๆกันอีกที ว่าครีมกันแดดหน้าตัวไหนทิ้งความมันไว้น้อยที่สุด 
Biore คว้ามงกุฏไปครอง ส่วนรองอันดับ 2 ต้องยกให้ Nivea ไปเลย
ใครชอบครีมกันแดดตัวไหน ก็รีบไปสอยมาลองกันเลยนะค๊า….

วันจันทร์ที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2561


รวมยาแต้มสิว ยุบเร็ว แห้งไว ที่คนเป็นสิวควรมีติดไว้ทุกคน

ยาแต้มสิวมีเยอะมากในท้องตลาด ตัวไหนใช้แล้วเห็นผล เหมาะกับเราบ้าง มาดูกันค่ะ
[Ad] • 8 มี.ค. 2018 · โดย 
เป็นสิวทีไร กลุ้มใจทุกที ก็เจ้าสิวเนี่ยบางทีก็มาแบบเม็ดใหญ่ สร้างความรำคาญใจให้เรา แถมเจ็บอีกต่างหาก บางทีก็มาแบบเป็นหนองให้เราอยากเจาะซะเหลือเกิน บางทีก็ดันไม่มีหัวสิวอีก จะบีบก็บีบไม่ได้ สาว ๆ หลายคนจึงมองหายาแต้มสิว ที่จะมาช่วยหยุดปัญหานี้ แต่ยาแต้มสิวในตลาดมีเยอะมาก วันนี้ Wongnai Beauty จึงรวบรวมยาแต้มสิวมาให้สาว ๆ ได้ตัดสินใจกันค่ะ

Clinda M


สิว




















สรรพคุณ : รักษาอาการอักเสบของสิว ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ต้นเหตุของการเกิดสิว
ให้คะแนนความแห้งไวของสิว : 5/5 สิวแห้งไว ทาทิ้งไวตอนกลางคืน ตอนเช้ายุบลงแล้ว
เนื้อของผลิตภัณฑ์ : 3/5 ซึมไว เพราะผสมแอลกอฮอล์ ตัวยาค่อนข้างแรง บางครั้งผิวบริเวณที่ทาอาจแห้ง หรือลอกเป็นขุยได้
กลิ่น : 2/5 กลิ่นเหมือนยาและค่อนข้างแรง
ราคา : 5/5 ราคา 60-70 บาท ถือว่าถูกเมื่อเทียบกับผลลัพธ์ที่ได้
หาซื้อง่าย : 5/5 หาได้ตามร้านขายยาทั่วไป

Vitara Anti Acne Gel [Ad]


สิว
























สรรพคุณ : เจลแต้มสิวออกฤทธิ์เร็ว ดูแลสิว 2 in 1 ในหลอดเดียว ใช้ได้ทั้งสิวอักเสบและสิวอุดตัน เป็นเวชสำอาง ผ่านการทดสอบการระคายเคืองจากแพทย์ผิวหนังแล้ว เหมาะสำหรับคนผิวแพ้ง่าย ที่สำคัญไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ ไม่ต้องกลัวเรื่องการระคายเคือง แม้จะเป็นแบรนด์น้องใหม่ แต่อยู่ในวงการสกินแคร์มานานแล้วนะคะที่โด่งดังคือ Burnova Gel Plus ขายดีมากในวัตสันค
ให้คะแนน
ความแห้งไวของสิว : 5/5 ทดสอบกับสิวตุ่มนูนแดง ทาทิ้งไว้ตอนกลางคืน ตื่นเช้ามาสิวยุบลงเยอะมาก จากเม็ดใหญ่ ๆ เหลือเม็ดเล็กนิดเดียว หากทาคู่กับคลินด้าเอ็มจะช่วยให้สิวยุบเร็วยิ่งขึ้น
เนื้อของผลิตภัณฑ์ : 5/5 เนื้อเจลใส ซึมง่าย ซึมเร็ว ไม่เหนอะผิว
กลิ่น : 4/5 มีกลิ่นเหมือนยาอ่อน ๆ
ราคา : 4/5 ราคา 185 บาท เมื่อเทียบกับปริมาณราคาสมเหตุสมผล
หาซื้อง่าย : 3/5 หาได้ที่ร้าน Watsons และร้านขายยาชั้นนำทั่วไป

TOMEI Clindai Gel




สิว










สรรพคุณ : รักษาอาการอักเสบของสิว ฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดสิว รักษาสิวที่มีอาการติดเชื้อร่วมด้วย เหมาะกับสิวอักเสบ สิวหัวหนอง สิวบวมแดง
ให้คะแนน
ความแห้งไวของสิว : 4/5 ทดสอบกับสิวบวมแดง ทาทิ้งไว้ตอนกลางคืน ตอนเช้าสิวยุบลงไปมาก แต่ก็ยังมีบวมอยู่หน่อย ๆ
เนื้อของผลิตภัณฑ์ : 5/5 เนื้อเป็นเจลใส เกลี่ยง่าย ซึมไปกับผิวเลย
กลิ่น : 5/5 ไม่มีกลิ่น
ราคา : 3/5 ราคา 115 บาท ถือว่าแอบแพง เพราะปริมาณน้อยเมื่อเทียบกับราคา คนที่เป็นสิวบ่อย ๆ จะรู้สึกว่าหมดเร็ว
หาซื้อง่าย : 5/5 หาได้ตามร้านขายยาทั่วไป, Watsons, Boots และ Tsuruha 

Smooth E Acne Hydro Gel




สิว










สรรพคุณ : เจลแต้มสิวออกฤทธิ์ทันทีหลังการใช้ รักษาสิวอุดตัน ช่วยบรรเทาการอักเสบของสิว และการระคายเคืองของสิว
ให้คะแนน
ความแห้งไวของสิว : 4/5 ทดสอบกับสิวหัวหนอง ทาตอนกลางคืน ตอนเช้าสิวยุบลง แต่ยังมีเป็นเม็ดอยู่หน่อย ๆ
เนื้อของผลิตภัณฑ์ : 4/5 เนื้อเจลเป็นสีขาวขุ่น ซึมเร็ว ไม่เหนียวเหนอะหนะ ตอนทามีอาการแสบเล็กน้อย
กลิ่น : 4/5 กลิ่นหอมอ่อน ๆ อ่อนมาก ๆ ต้องดมใกล้ ๆ ถึงจะได้กลิ่น
ราคา : 3/5 ราคา 160-200 บาท ราคาสูง โดยเฉพาะหากซื้อใน 7-11 ถ้าซื้อร้านขายยาทั่วไปจะถูกกว่า
หาซื้อง่าย : 5/5 หาได้ตามร้านขายยา, ห้างสรรพสินค้า, Watsons, Boots และ 7-11

Benzac AC Water Base Gel




สิว










สรรพคุณ : เจลแต้มสิวสีขาว มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของสิวโดยเฉพาะ ช่วยลดทั้งสิวอักเสบ สิวหนอง และสิวอุดตัน ตัวยามีความเข้มข้นสูง ควรใช้ในปริมาณน้อย ๆ ก่อน เพราะอาจระคายเคืองได้
ให้คะแนน 
ความแห้งไวของสิว :
 3/5 ทดสอบกับสิวไม่มีหัว ทาตอนเช้า ตกเย็นสิวยุบลง แต่ก็ยังเป็นเม็ดชัดอยู่
เนื้อของผลิตภัณฑ์ : 5/5 เนื้อเจลสีขาว เนื้อหนักที่สุดในบรรดายาแต้มสิว 6 ตัวนี้ แต่ถือว่าไม่เหนอะหน้า ซึมไว
กลิ่น : 5/5 ไม่มีกลิ่น
ราคา : 5/5 ราคา 120-140 บาท ราคาคุ้มค่าเมื่อเทียบกับปริมาณ
หาซื้อง่าย : 3/5 ตัวนี้เป็นสูตร Water Base Gel อาจหายากหน่อยในร้านขายยาขนาดเล็ก สามารถหาซื้อได้ในร้านขายยาชั้นนำ, Watsons และ Boots

Vichy Normaderm Heal Spot


สิว

















  

ให้คะแนน
ความแห้งไวของสิว : 4/5 ทดสอบกับสิวที่นูนแดง สิวลดลงไปเยอะ แต่ก็ยังเหลือสิวนูนอยู่หน่อย ๆ
เนื้อของผลิตภัณฑ์ : 4/5 เนื้อเจลใส ความรู้สึกเหมือนมีฟิล์มมาเคลือบผิว ซึมไว ไม่หนักหน้า
กลิ่น : 3/5 กลิ่นน้ำหอมชัดมาก
ราคา : 2/5 ราคา 650 บาท ราคาแพงเมื่อเทียบกับยาทาสิวตัวอื่น ๆ
หาซื้อง่าย : 3/5 หาซื้อได้ในห้างสรรพสินค้าที่มีเคาน์เตอร์ Vichy , Watsons และ Boots    
เป็นยังไงบ้างคะสาว ๆ พอจะเป็นข้อมูลสำหรับการตัดสินใจเลือกยาแต้มสิวกันได้บ้างรึเปล่าเอ่ย นอกจากใช้ยาเพื่อให้สิวหายแล้ว ยังมีปัจจัยอื่นที่ส่งผลกระทบต่อการเกิดสิว ดังนั้นนอกจากใช้ยาที่ดีแล้ว ควรดูแลตัวเองจากภายใน เช่น พักผ่อนให้เพียงพอ ทานอาหารที่มีประโยชน์ ล้างหน้าให้สะอาด เพียงเท่านี้ก็จะช่วยกู้หน้าใสของเราให้กลับมาได้ค่ะ


สาวคนไหนที่ปากแห้งคงเข้าใจกันดี ไม่ว่าจะหน้าร้อนหรือหน้าหนาวเราก็ยังปากแห้งกันอยู่ดีใช่ไหมล่ะคะ เวลาออกไปไหนต้องพก "ลิปมัน" ติดตัวอยู่ตลอดเวลา ถือว่าเป็นอวัยวะที่ 33 เลยก็ว่าได้ วันนี้เลยจะมาบอกต่อลิปมันที่ให้ความชุ่มชื้น ใช้ดีมากๆ ที่สาวปากแห้งไม่ควรพลาดเลยล่ะค่ะ มีแต่ตัวเด็ดๆ ทั้งนั้น

Fresh Sugar Lip Balm

ถ้าพูดถึงลิปมันที่ให้ความชุ่มชื้นแล้ว คงไม่มีใครไม่รู้จักกับแบรนด์ Fresh เพราะไอเทมตัวนี้ดังจริง และดีจริง ให้ความชุ่มชื้นอย่างเดียวไม่พอ ยังหอมมากๆ อีกด้วย

Dior Addict Lip Glow

นอกจากจะให้ความชุ่มชื้นได้ดีแล้ว เวลาทายังให้สีที่ดูธรรมชาติ ดูปากระเรื่อสุขภาพดีอีกด้วยสำหรับลิปมันตัวนี้

Vaseline Lip Therapy

เป็นอีกตัวหนึ่งที่ติดอันดับโพลลิปมันที่ให้ความชุ่มชื้นแทบจะทุกอันเลยทีเดียว ลิปมันตัวนี้ไม่มีสี ให้ความชุ่มชื้นได้ดีมากๆ แนะนำให้ทาก่อนนอนพอเช้าตื่นขึ้นมาจะรู้สึกว่าปากชุ่มชื้นมากๆ เลยล่ะค่ะ

DHC Lip cream

ลิปมันสัญชาติญี่ปุ่นที่ถือว่าดีมากตัวหนึ่งเลย ให้ความชุ่มชื้นได้ยาวนานสุดๆ สำหรับตัวนี้ บางทีก็จะออกลายน่ารักๆ อย่างเช่นพวกลายเจ้าหญิงดิสนีย์มาล่อตาล่อใจให้เราเสียทรัพย์ด้วยนะคะ แต่ว่าถึงจะเป็นลายเรียบๆ ก็ซื้อใช้อยู่ดี เพราะของเขาดีจริงๆ นี่นา

Burt’s Bees

ไม่ต้องบอกสาวๆ ก็คงต้องรู้จักแบรนด์ลิปมันตัวนี้อย่างแน่นอน เรื่องความชุ่มชื้น สยบปากแห้งหรือปากลอกนี่ทำได้สบายมากสำหรับตัวนี้ ต้องรีบไปสอยมาลองด่วนเลยนะคะ

Carmex

สาวๆ คนไหนที่ชอบทาลิปมันแล้วรู้สึกเย็นๆ ให้ความสดชื้นเบาๆ ต้องตัวนี้เลยค่ะ ด้วยเอกลักษณ์ความหอม และความชุ่มชื้นที่ยาวนานทำให้ลิปมันตัวนี้ถูกใจสาวปากแห้งหลายคนเลยทีเดียว

Himalaya Herbals Lip Balm

ลิปมันตัวเด็ดอีกตัวจากอินเดียที่ถือว่าเป็นลิปมันที่ถูกและดีมากๆ อีกตัวหนึ่งเลยก็ว่าได้ ให้ความชุ่มชื้นกับริมฝีปากได้ดีมากๆ พกพาง่าย และน้ำหนักเบาด้วยค่ะ
รับรองได้เลยนะคะว่าลิปมันทุกตัวที่ยกมาพูดถึงนี้สามารถสยบปากแห้ง หรือแม้กระทั่งปากลอกได้หมดสิ้นแน่นอนค่ะ!
 รีวิว : โฟมล้างหน้าสำหรับคนหน้ามันเป็นสิวง่าย 5 แบรนด์ที่คนพูดถึงมากที่สุด
สวัสดีค่า เนื่องจากช่วงนี้อินเรื่องการรีวิวหลายๆ แบรนด์มาเปรียบเทียบกัน วันนี้ก็จะขอเอาโฟมล้างหน้า 5 แบรนด์ดังที่เห็นคนรีวิวกันเยอะมากๆ มาลองบ้างค่ะ ว่าแต่จะมีแบรนด์ไหนบ้าง ตามมาดู๊!


           5 แบรนด์ที่จะมารีวิวก็มี Smooth E , Bifesta , Clean & Clear , Hadalabo และ Senka บางแบรนด์วี่ใช้อยู่แล้ว และบางแบรนด์ก็เพิ่งซื้อใหม่มาลอง ที่รีวิววันนี้จะมาดูกันว่าตัวไหนคุมมันดี ตัวไหนล้างสะอาด และข้อดีข้อเสียในแต่ละแบรนด์นะคะ เอาล่ะ เริ่ม!


              เริ่มกันที่แบรนด์แรก โฟมในตำนาน!! Smooth E Baby Face Foam เป็นโฟมสูตรไม่มีฟองแท้ NiS 100%  (Non-Ionic)  ไม่มีประจุไฟฟ้า จึงไม่ทิ้งสารตกค้างอันเป็นสาเหตุของสิวและริ้วรอย อุดมด้วยวิตามินอี ใช้ได้กับทุกสภาพผิว เพื่อผิวหน้าสะอาด นุ่มและชุ่มชื้น 
               มีคุณสมบัติเป็น 3 in 1 ทั้งโฟมล้างหน้า โทนเนอร์ และมอยซ์เจอไรเซอร์ และยังเป็นสูตรอ่อนโยนต่อผิว มีค่า pH ใกล้เคียงกับผิว และผ่านการทดสอบการแพ้ ไม่ทำให้เกิดการอุดตัน  แบรนด์เคลมมาไว้แบบนี้ค่ะ ตัวนี้เคยใช้มานานมากแล้วตอนมัธยม~ วี่จบมัธยมมาได้เกือบ 10 ปีแล้วค่ะ ตอนนั้นรู้สึกว่าไม่ชอบเท่าไหร่ เหมือนล้างไม่สะอาดเลยไม่ได้ใช้ต่อ แต่พอเริ่มแก่ และมารีวิวเครื่องสำอางเลยหยิบมาลองอีกรอบ ในความรู้สึกตอนนี้คิดว่ามันล้างได้สะอาดขึ้นนะ ตอนใช้ที่รู้สึกเหมือนโฟมฝืดๆ แต่ตอนล้างออกแล้วก็ผิวหน้าดูสะอาดดี


           เนื้อโฟมนะคะ อาจจะแข็งๆ หน่อยตอนบีบออกมา แต่ตอนถูวอร์มกับมือและวอร์มกับหน้าก็โอเคอยู่ค่ะ

          ข้อดี : ตัวนี้ค่อนข้างอ่อนโยนนะ ผิวแพ้ง่ายใช้ก็ไม่ค่อยเห็นใครมีปัญหา รวมถึงวี่ที่ผิวก็แพ้ง่าย ด้วยความที่ไม่มีฟอง เหมือนจะช่วยลดความตึงผิวได้กว่าโฟมหลายๆ แบรนด์ คนผิวแห้งนี่เขาจะชอบตัวนี้กันมาก ถ้าในเรื่องความอ่อนโยนต่อผิววี่ก็ชอบนางนะคะ

        ข้อเสีย : สำหรับคนหน้ามันแบบวี่ ถ้าต้องใช้แล้วออกจากบ้านในช่วงกลางวัน แต่งหน้านี่เยิ้มไว ไม่แนะนำเลยค่ะ ถ้าคนหน้ามันใช้นะ ใช้ก่อนนอน หรือตอนเย็น เพราะว่าตัวนี้ไม่คุมมันเลย หน้ามันเร็วมากจริงๆ เวลาวี่ใช้ก็ใช้ก่อนนอน อีกอย่างใช้แล้วไม่แพ้ค่ะ ถือว่าให้ผ่านในเรื่องนี้ด้วย (แอบล้างออกยากนิดนึง)

ราคา : 165 บาท
ปริมาณ : 2 ออนซ์


           มาต่อที่ Bifesta Foaming Whip สูตร SEBUM สูตรนี้คุมความมัน ไม่มีแอลกอฮอล์ ไม่มีสี ไม่มีสารกันเสีย กระชับรูขุมขนด้วยสารสกัดจากชาเขียว (Green Tea Extract) วี่ตามมาซื้อตัวนี้เพราะชอบคลีนซิ่งเช็ดเครื่องสำอางของนางมาก ช่วยเรื่องสิวอุดตันดีเลยคิดว่าโฟมน่าจะดีด้วย ตัวนี้ได้มาสักพักแล้ว ตั้งแต่ช่วงออกมาแรกๆ ค่ะ ตัวเนื้อเป็นวิปโฟมในรูปแบบขวด มี CO2 หรือก๊าซคาร์บอนไดออกไซค์ เป็นนวัตกรรมจากญี่ปุ่น คือ ช่วยกระตุ้นการหมุนเวียนของเลือดใต้ผิวตอนล้างหน้า ทำผิวเปล่งปลั่ง ดูมีนวล มาในแบบขวดปั๊ม คือไม่ต้องตีฟองเองนะ เขย่าก่อนใช้สักหน่อย พอบีบออกมาโฟมจะฟูมากแล้วเนื้อโฟมแน่นอลัง แน่นจนแบบ เห้ยยย มันมีแบบนี้ด้วยหรอ



           นี่คือเนื้อโฟมค่ะ อันนี้วี่กดมาพอประมาณนะ วันแรกที่ลองไม่รู้ กดสุดปั๊มเลย ฟองเต็มมือก้อนใหญ่มาก ตอนนี้รู้แล้วก็กดเบาๆ แต่จึ๊กเดียวพอ ตอนใช้จริงก็กดน้อยกว่านี้นะคะ อันนี้อยากให้ทุกคนดูเนื้อโฟมเฉยๆ


          ข้อดี : ตัวนี้โฟมหนานุ่มมาก เวลาใช้จะรู้สึกได้เลยว่าฟองละเอียด ตอนล้างออกผิวไม่เอี๊ยดเลย ยิ่งละเอียดเท่าไหร่ก็ทำความสะอาดได้ดี หน้านุ่มชุ่มชื่น ใช้แล้วหน้ามันน้อยลงเยอะค่ะ สิวไม่เพิ่ม ชอบกลิ่นด้วยหอมมมมมม ใช้แล้วไม่มีอาการแพ้แต่อย่างใด เพราะว่าไม่แพ้มาตั้งแต่คลีนซิ่งแล้ว



          ข้อเสีย : อาจจะเปลืองโฟมถ้ากดไม่เป็น ตอนแรกๆ ที่ใช้วี่เผลอกดออกมาเยอะมาก ถ้าเป็นไปได้ค่อยๆกดค่ะ เขย่าแล้วกดเบาๆ มือก่อน ไม่งั้นฟองล้นแล้วหมดไวแน่ถ้าไม่กดดีๆ



ราคา : 195 บาท
ปริมาณ :  180 กรัม




            มาที่ Clean & Clear Rice Extract Oil Control อันนี้สูตรสำหรับควบคุมความมัน ด้วย rice extract เพิ่มประสิทธิภาพช่วยควบคุมความมัน ทำความสะอาดล้ำลึก ขจัดความมันส่วนเกิน คราบเครื่องสำอาง และสิ่งอุดตันได้อย่างหมดจด แล้วเคลมอีกว่าคุมมันนานถึง 8 ชั่วโมงเลยค่ะซิส ว้าว ต้องโดน วี่เคยใช้เจลล้างหน้าของเขา ก็รู้สึกโอเคอยู่ แต่อันนี้เห็นเคลมเรื่องความมันก็เลยหยิบมาลอง ใช้ได้สองอาทิตย์ก็รู้สึกว่าหน้าสะอาดดีค่ะ ไม่ก่อสิว คุมมันโอเคเลยนะ ไม่ขี้เหร่เลยล่ะ กลิ่นก็ชอบค่ะ สดชื่นดี


          มาดูที่เนื้อโฟม ตัวนี้เนื้ออาจจะแข็งๆ ไปหน่อยถ้าเทียบกับตัวอื่นๆ แต่อ่อนนุ่มกว่าสมูทอีหน่อยนะ


        ข้อดี : ตัวนี้ล้างได้สะอาดดีค่ะ คุมมันดี กลิ่นดี ใช้แล้วสิวไม่เพิ่มด้วย ล้างออกง่าย



        ข้อเสีย : ด้วยความที่เป็นโฟมคุมมัน ตัวนี้แอบจะหน้าเอี๊ยดไปสักหน่อย คือผิวจะตึงๆ เล็กน้อยช่วงแรกที่ล้างออกมานะคะ แต่ทิ้งไปสักพักก็โอเคเพราะผิวเริ่มผลิตน้ำมันแล้ว 


ราคา : 120 บาท
ปริมาณ : 100 กรัม


          ส่วน Hadalabo Deep Clean & Blemish Control ตัวนี้เป็นสูตรสำหรับหน้ามันเป็นสิว มีส่วนผสมจากแร่ธาตุภูเขาไฟ มีซาลิไซลิค แอซิด ช่วยให้ผิวใสไร้สิวและ ไฮยาลูรอนิค แอซิด เติมเต็มความชุ่มชื่นอย่างล้ำลึก ไปพร้อมกับการทำความสะอาดผิวหน้าได้อย่างอ่อนโยน สรุปง่ายๆ คือ ทั้งทำความสะอาดและบำรุงไปในตัว ช่วยเผยผิวสะอาดใส สวยอย่างสมบูรณ์แบบ ค่อนข้างจะตรงจุดกับวี่มากค่ะ ได้มาเพราะน่าใช้ แพคเกจจิ้งดูล่อลวงดู ด้วยหลอดสีขาวดูสะอาดตา และโฟมของฮาดะลาโบะมีหลายสูตรมากๆ วี่เลยอยากลอง ตัวนี้ไม่มีน้ำหอมนะรู้สึก คือไม่มีกลิ่นอะไร เป็นกลิ่นออริจินัลขอลเนื้อโฟมอะแหละ เก็ทมะ ไม่มีกลิ่นน้ำหอมอะซิส


           เนื้อโฟมของเขาค่อนข้างเหลวนุ่ม โฟมแบบนี้ดีค่ะ มันจะไม่อุดตันบนผิว ยิ่งละเอียดยิ่งดีค่ะ มันจะผสมเข้ากับน้ำได้ดีแล้วทำความสะอาดได้ล้ำลึกขึ้น


           ข้อดี : ตัวนี้ไม่มีกลิ่นน้ำหอม บางคนแพ้น้ำหอมอาจจะชอบตัวนี้ ซึ่งวี่ก็ชอบ ตัวโฟมนุ่มดี หลังล้างแล้วหน้าไม่เอี๊ยด ไม่ตึง คุมความมันได้ระดับนึงค่ะ แล้วก็รู้สึกว่าสะอาดมากเช่นกัน



          ข้อเสีย : เคลมไว้ว่าช่วยเรื่องสิว แต่สำหรับวี่ สิวไม่ดีขึ้นเลยนะ คุมมันก็ระดับหนึ่งเท่านั้น เทียบแล้วแบรนด์อื่นคุมมันได้ดีกว่า นอกนั้นวี่ถือว่าโอเคอยู่ค่ะ ชอบในระดับหนึ่งไม่แย่

ราคา : 175 บาท
ปริมาณ : 100 กรัม



           ตัวสุดท้าย Senka Perfect Whip โฟมล้างหน้ายอดฮิต ที่ใครๆ ก็อดพูดถึงไม่ได้โฟมวิปอนุภาคเล็กของเนื้อโฟมจะเข้าไปดึงสิ่งสกปรกภายในรูขุมขนได้อย่างล้ำลึก ทำให้ทำความสะอาดผิวหน้าได้สะอาดหมดจด มี ไฮยาลูรอนิคแอซิคเหมือนกันค่ะ ตัวดังเหลือเกิน ใครๆ ก็ใช้ เราก็อยากลองบ้างอะ เห็นว่าช่วยคุมความมันด้วย เอาๆ ลองๆ ตอนที่ได้มานี่ตื่นเต้นมาก ฮาๆๆๆ เพราะคนรีวิวเยอะ มาเปิดมารู้สึกก่อนเลยหอม หอมละมุน ชอบกลิ่นจัง ประทับใจ แต่พอใช้ไปได้สักพัก...เห้ย สิวเห่อ เห่อแบบมาเป็นปื้ดดดดดด โอ้ย ใจพี่ วางแทบไม่ทันค่ะ ฮือ แพ้สินะ แพ้ซะแล้ว


          เนื้อโฟมนุ่มมาก เอาจริงๆ นุ่มรองจาก Bifesta เลย ตอนใช้บนผิวหน้าจริตใจมาก คิดว่าจะต้องซื้อซ้ำ จะต้องเป็นอีกตัวที่ชอบแน่ๆ แต่สุดท้ายค่ะ วี่แพ้เป็นไม่ท่า เสียใจที่สุด


        ข้อดี : เนื้อสัมผัสดี กลิ่นดี ความรู้สึกขณะใช้ดี หอมแบบที่ชอบเลย ตอนที่เอาเน็ทตีฟองมาช่วยก็รู้สึกฟองนุ่มดี คุมมันก็โอเค ล้างสะอาด หน้านุ่มหลังใช้ 



        ข้อเสีย : หักคะแนนิดหน่อยหน่อยตรงที่ต้องเสียเวลาตีฟองโฟมนี่แหละค่ะ เพราะบางวันวี่ก็ขี้เกียจ ตอนเช้าๆก็รีบด้วย อีกอย่างคือใช้แล้วแพ้ค่ะ สิวขึ้น ขึ้นแบบไม่มีหัว เรียงกันเป็นตับ เสียใจมาก จนตอนนี้สิวที่เกิดจากการแพ้เซนกะยังทิ้งรอยไว้อยู่เลยค่ะ คงไม่ซื้ออีกแล้วล่ะ เพราะแพ้ไปซะแล้วนี่

ราคา : 190 บาท
ปริมาณ : 120 กรัม


          การทั้งหมดทั้งมวล วี่ก็มีผลเรื่องคุมความมันมารีวิวด้วย โดยใช้กระดาษซับมันซับบนหน้าหลังจากล้างหน้าด้วยทั้ง 5 แบรนด์หลังใช้ 2 ชั่วโมง


         ดูจากภาพคือ Bifesta กับ Clean & Clear น้ำมันน้อยที่สุด จริงๆ Senka ก็ใกล้เคียงนะ แต่ Smooth E มันสุดเลย







            ต่อด้วยเรื่องทำความสะอาดผิว วี่ใช้โทนเนอร์เช็ดหลังล้างหน้าด้วยแบรนด์ทั้งหมด 5 แบรนด์ สังเกตได้ว่า Bifesta กับ Hadalabo สำลีสะอาดมากอยู่เลย อันอื่นก็ตามภาพค่ะ โดยรวมก็นับว่าสะอาดใกล้เคียงกันอยู่นะ ไม่ได้มีคราบเครื่องสำอางอะไรออกมา


ส่วนที่ชอบที่สุดนะคะ ก็เป็น Bifesta กับ Clean & Clear ในส่วนของ Bifesta วี่ชอบคลีนซิ่งเขามากอยู่แล้วค่ะ เป็น 1 ในคลีนซิ่งที่ชอบ ส่วนโฟมก็ประทับใจค่ะ ซื้อซ้ำอยู่แล้วล่ะ Clean & Clear ก็โอเคมาตั้งแต่ตัวเจลล้างหน้า มาใช้โฟมนี้ก็ไม่ได้ผิดหวัง แต่ตินิดนึงเรื่องอาจจะเอี๊ยดไปหน่อย 
ที่มา https://pantip.com/topic/36703622

10เซรั่มหน้าใส ลดรอยสิว

10 เซรั่มหน้าใส ลดรอยสิว เซรั่มเผยผิวขาวกระจ่างใสที่ดีที่สุด

10 เซรั่มหน้าใส ลดรอยสิว เซรั่มเผยผิวขาวกระจ่างใสที่ดีที่สุด สำหรับสาวๆอย่างเราคงไม่มีอะไรที่สำคัญไปกว่ารูปลักษณ์บนใบหน้าอีกแล้ว เพราะใบหน้าเป็นสิ่งแรกที่สามารถเชิญชวนให้ผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมาสนใจ โดยเฉพาะถ้ายิ่งการมีผิวขาวเนียนสวยใส คงเป็นความใฝ่ฝันของหญิงสาวหลายๆคน ฉะนั้นมาค่ะ!!
คราวนี้เราจะมา Make It Happen ความสวยสร้างได้ ด้วยเซรั่มหน้าใสสุดเริ่ด เหมาะกับสาวไทยที่คัดมาแล้วว่าต้องเด็ดชนิดที่ว่าของมันต้องมีกับ 10 เซรั่มหน้าใสที่พร้อมกันยกขบวนมาช่วยกู้ชีพผิวพังๆให้สวยปิ๊งขึ้นมาแบบมีออร่าไม่ว่าจะเป็นปัญหารอยสิว ผิวเรียบเนียนไม่สม่ำเสมอ ริ้วรอยตีนกา ผิวแห้ง ผิวมัน จนไปถึงปัญหารูขุมขน ก็เอาอยู่อย่างแน่นอน
เมื่อกล่าวมาถึงจุด จุดนี้แล้วคงยั่วให้สาวๆหลายคนเตรียมกำกระเป๋าสตางค์แล้วพุ่งตรงไปจัดเซรั่มหน้าใสมาเป็นของตัวเองแล้วใช่ไหมล่ะค่ะ!!! แต่ใจเย็นก่อนแล้วลองไปดูคุณสมบัติเริ่ดๆของเซรั่มแต่ละตัวก่อนดีกว่าคะ — เซรั่มหน้าใส

เซรั่มบำรุงหน้า Pantip

1. Biotherm Life Plankton Essence

สาวๆบางคนอาจจะประสบปัญหาเรื่องของอายุผิวที่นำหน้าอายุตัวไปหลายช่วงทั้งแบบที่รู้ตัวและไม่รู้ตัว แต่คุณสามารถหยุดปัญหาเหล่านี้ได้ด้วย Biotherm Life Plankton Essence ซึ่งมีคุณสมบัติพิเศษที่ช่วยลดอายุของผิวคุณลงไปได้ถึง 3 ปีเชียวล่ะ OMG!!! แถมยังจะเริ่มเห็นผลหลังจากใช้งานต่อเนื่องเพียงแค่ 8 วันเท่านั้น
ส่วนผสมที่สำคัญของผลิตภัณฑ์ตัวนี้คือ เจ้า Plankton สกัดมาจาน้ำแร่ร้อนธรรมชาติที่ผ่านการวิจัยมาอย่างยาวนาน และนอกจากจะเข้าไปช่วยฟื้นฟูเพื่อลดอายุผิวแล้ว ยังทำให้ผิวมีสุขภาพดีอาทิ ความชุ่มชื่น เรียบเนียน นิ่มนวล พร้อมกับสีผิวที่สม่ำเสมอ ลงทุนแค่ 1,825 บาท ถือได้ว่าคุ้มค่ากับการดูแลผิวได้เป็นอย่างมาก

เซรั่มหน้าขาวใส

2. SK-II Facial Treatment Essence

ถ้าจะพูดถึงเซรั่มหน้าใสแน่นอนว่าหลายคนคงจะยกให้แบรนด์ดัง SK-II เป็นน้ำตบในตำนาน ที่ออกเซรั่มมานานหลายปีแล้วแต่ยังคงได้รับความนิยมมาอย่างสม่ำเสมอ และถือว่าเป็นเซรั่มตัวแรกๆที่ปลุกกระแสให้สาวๆหันมาให้ความสนใจในการใช้เซรั่มบำรุงผิวหน้า
สำหรับใน SK-II Facial Treatment Essence มีส่วนประกอบของ Pitera มากถึง 90% ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการผลัดเซลล์ผิว คุณสมบัติหลักๆที่พบได้คือ ช่วยปรับให้ผิวกระจ่างใส เรียบเนียน และยังควบคุมสมดุลของค่า ph ในผิวอีกด้วย

เซรั่มทาหน้าใส

3. Sulwhasoon First Care Activating Serum EX

มาถึงเซรั่มหน้าใสสุขภาพดีสไตล์สาวเกาหลีกับ Sulwhasoon First Care Activating Serum EX ที่อุดมไปด้วยส่วนผสมของสมุนไพรระดับพรีเมียมของเกาหลี พร้อมจะปรนนิบัติผิวของคุณให้ขาวใสแบบสาวเกาหลีเลยเชียวคะ
สมุนไพรของเกาหลีขึ้นชื่อเรื่องของการกระตุ้นระบบการไหลเวียนช่วยให้ผิวมีสุขภาพดีจากภายใน และดูแลความชุ่มชื้นของผิวให้ผิวอ่อนนุ่มและลดริ้วรอยลง แถมยังช่วยปรับให้ผิวดูกระจ่างใสดูเปล่งประกายอย่างเป็นธรรมชาติ

เซรั่มที่ดีที่สุด

4. Sena Marine Plankton Water Serum Concentrate

ด้วยชื่อก็ชัดเจนอยู่แล้วว่าส่วนผสมหลักของ Sena Marine Plankton Water Serum Concentrate มาจากแพลงก์ตอนในทะเลน้ำลึก ซึ่งมีสรรพคุณเด่นๆมากมายไม่ว่าจะเป็นการซ่อมแซมเซลล์ผิวที่เริ่มเสื่อมสภาพตามวัยหรือการถูกทำร้ายด้วยสารเคมีและมลภาวะ กระตุ้นให้เซลล์ผิวทำงานได้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น นอกจากนั้นยังมีคอลลาเจนช่วยให้ผิวดูอิ่มเอิบ และลดริ้วรอยได้ถือได้ว่าคุณสมบัติครบถ้วนคุ้มค่ากับราคามากจริงๆ

เซรั่มหน้าขาววัตสัน

5. Laneige White Dew Original Ampoule Essence

เซรั่มหน้าใสตัวนี้ได้ใช้เทคโนโลยี Mela-vita Crusher เพื่อเข้าไปช่วยแก้ปัญหาร่องรอยของสิว จุดด่างดำ และสีผิวที่ไม่สม่ำเสมอ พร้อมยังปรับโทนสีผิวให้ขาวกระจ่างใสขึ้นดูเป็นธรรมชาติและดูเปล่งประกายขึ้น นอกจากนั้นมีส่วนผสม Phyto Sugar Water ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการเพิ่มและกักเก็บความชุ่มชื้นเพื่อให้ผิวดูอิ่มน้ำสุขภาพดี

เซรั่มหน้าใสยี่ห้อไหนดีที่สุด

6. VICHY Mineral 89 Serum

เมื่อผิวต้องผจญกับปัญหาต่างๆหรือเผชิญมลภาวะอยู่ตลอดเวลา เซรั่มตัวนี้จะเข้าไปช่วยฟื้นฟูผิวจากปัญหาเหล่านี้ด้วยความมหัศจรรย์จากน้ำแร่ฝรั่งเศส ช่วยเติมเต็มผิวที่เมื่อยล้าให้กลับมามีชีวิตชีวาและดูอิ่มน้ำสุขภาพดี อีกทั้งยังมีไฮยาลูรอนิคในการเก็บกักความชุ่มชื้นให้แก่ผิวที่สำคัญเซรั่มหน้าใสตัวนี้ยังปราศจากสารต่างๆที่จะทำให้เกิดอาการแพ้และระคายเคืองฉะนั้นใครที่ผิวแพ้ง่ายก็สามารถใช้ได้เช่นกัน

รีวิวเซรั่มที่ดีที่สุด

7. Innisfree The Green Tea Seed Serum

ส่วนผสมหลักของเซรั่มหน้าใสตัวนี้กว่า 75% มาจากชาเขียวซึ่งใช้เป็นชาเขียวออร์แกนิกจากเกาะเชจู โดยสรรพคุณของสารสกัดชาเขียวคือ ช่วยเติมเต็มความชุ่มชื้นแก่ผิว พร้อมกับเติมสารอาหารเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวมีความแข็งแรงและสุขภาพดีขึ้น เมื่อใช้เป็นประจำคุณจะสัมผัสได้ถึงความเนียนนุ่มและกระจ่างใสขึ้น ในชาเขียวยังมีสารต้านอนุมูลอิสระชะลอการเกิดริ้วรอยและลดปัญหาสิวได้

เซรั่มถูกและดี

8. Hada Labo Arbutin Whitening Essence

จุดเด่นของ Hada Labo คือเป็นผลิตภัณฑ์ที่เน้นบำรุงผิวให้ชุ่มชื้น สำหรับเซรั่มตัวนี้ช่วยในเรื่องของความกระจ่างใสพร้อมลดเลือนริ้วรอย ด้วยองค์ประกอบของอาบูตินและวิตามินซีจึงมีความเข้มข้นกว่าโลชั่นปกติ ไม่เพียงแต่ช่วยให้ความชุ่มชื้นยังลดรอยจุดด่างดำต่างๆได้เป็นอย่างดี

รีวิวเซรั่มหน้าขาว

9. L’Oréal Paris Youth Code Skin Activating Ferment Pre-Essence

ด้วยสรรพคุณของผลิตภัณฑ์ L’Oréal คงทราบกันอยู่แล้วว่าเน้นไปในเรื่องของการลดเรือนริ้วรอย เซรั่มหน้าใสตัวนี้ก็เช่นกัน มีจุดเด่นคือมีการเพิ่มส่วนผสมของ Ferment Seed เข้าไปถึง 98% จึงเท่ากับเพิ่มประสิทธิภาพให้กับเซรั่มในเรื่องการลดริ้วรอยทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์ กระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวเหมาะกับคนที่กังวลเรื่องริ้วรอย

เซรั่มวิตามินซี

10. Oriental Princess Natural Power C Miracle Brightening Complex Advanced Brightening Serum with 100% Pure Vitamin C 10%

เซรั่มตัวใหม่ที่มีส่วนผสมเด่นๆของวิตามินซีบริสุทธิ์ 100% จึงสามารถลดเรื่องปัญหาผิวหมองคล้ำ จุดด่างดำ ร่อยรอยจากสิว และสีผิวที่ไม่เรียบเนียนเห็นผลภายใน 7 วัน แถมยังให้ผลที่ยอดเยี่ยมยิ่งขึ้นหากใช้งานอย่างต่อเนื่องเป็นประจำ
หมดแล้วจร้า!!! กับเซรั่มหน้าใสสุดเริ่ดที่รอให้คุณนำมาตบผิว บำรุงหน้าให้มีรัศมีออร่าดูเปล่งปลั่ง ฉะนั้นสาวๆอย่างมัวรอช้า เดี๋ยวจะขาวกระจ่างใสไม่ทันเพื่อนแล้วจะหาว่าไม่เตือนคะ
ที่มา https://brannova.com/%E0%B9%80%E0%B8%8B%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B9%83%E0%B8%AA/